การฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้ายของบรรดานักแข่งในรุ่นโมโต 2 ได้เสร็จสิ้นลงไปเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา เจ้าฟีม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หนึ่งเดียวของไทย ซื้อตั๋วไปทันซ้อมอย่างชนิดใจหายใจคว่ำ เมื่อต้นสังกัดไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับตัวถัง (Frame) ที่จะใช้ชิงชัยในปีนี้ รวมทั้งสปอนเซอร์บางรายที่ยังไม่พร้อมเข้าสนับสนุน ทำให้เกิดการล่าช้าไปทุกขั้นตอน
แต่อย่างไรก็ดี เจ้าฟีมก็ได้บินไปร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนๆในรุ่นนี้ ที่มีทั้งเพื่อนเก่าและใหม่รวมแล้ว 40 ชีวิต นับว่าเป็นการแข่งขันที่มีประชากรมากที่สุด ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ในรุ่น GP125 มีรถมากถึง 44 คัน โดยการฝึกซ้อมในรุ่นนี้ได้ทำการฝึกซ้อมไปแล้วทั้ง 3 สนาม (เฮเรซ, คาตาลุนย่าและบาเลนเซีย) ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
สรุปสุดท้ายทีมงานแซ๊กได้เลือกใช้บริการตัวถังของ Bimota รุ่น HB4 (Honda-Bimota version4) โดยทีมงาน Bimota ได้ทำการพัฒนามาจนถึงแบบที่ 4 แต่ยังไม่มีนักแข่งในโมโต2 รายใดได้เคยขับขี่ และในการแข่งขันปีนี้ก็จะมีเพียง 2 คนที่จะใช้ตัวถัง HB4 คือ รัฐภาคย์วิไลโรจน์กับเบอนาด มาติเนซ เพื่อนร่วมทีมแซ๊ก
ภาพอากาศที่ประเทศเสปนในช่วงนี้ยังคงหนาวเย็น โดยวันที่เริ่มซ้อมวันแรก อากาศเย็นสบาย แต่ทีมงานไทยฮอนด้า พีทีที สิงห์ แซก กับไม่สบายเหมือนอากาศ เพราะรถที่ยังไม่พร้อมสมบูรณ์ เนื่องจากเพิ่งจะได้รับตัวถังมาเมื่อช่วงกลางเดือนนี้เอง เจ้าฟีมต้องเข้าๆออกพิทเพื่อแก้ปัญหาที่มีอยู่แทบทุกจุด วัดรอบไม่ขึ้น ตัวบันทึกข้อมูลไม่อ่าน ช๊อคอัพหลังยังไม่เสร็จ ช๊อคอัพหน้านิ่มไป และอีกสารพัดที่ต้องจัดการ วันแรกจึงวิ่งไปเพียง 44 รอบในขณะที่เพื่อนๆ ร่วมการแข่งขันฝึกซ้อมกันอย่างสุกสนาน บางคนวิ่งเกือบร้อยรอบ ผู้ที่เร็วที่สุดในวันนี้เป็น #24 โทนี่ อิไลอัส นักแข่งที่ลงมาจากรุ่นโมโตจีพี ทำเวลาที่ 1'44.077 ในขณะที่ฟีมทำได้เพียง 1'46.454 และมาดีขึ้นในช่วงบ่ายที่ 1'45.981
"หยุดขี่ไปนาน แม้ว่าจะได้ขี่ในเมืองไทยมาพอประมาณ แต่ก็ไม่เหมือนกัน ทั้งสภาพสนาม ความเร็ว รวมทั้งสภาพกาศ วันนี้ต้องปรับหลายจุด ทำให้ขี่ได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ"
การซ้อมในวันที่สอง สภาพอากาศยังคงเป็นไปอย่างสบาย ทีมงานแซ๊กได้แก้ไขข้อบกพร่องในหลายจุด ทำให้วันนี้เจ้าฟีมได้ขับขี่มากรอบขึ้น และสามารถกดคันเร่งทำเวลาได้ดีขึ้นในทุกจุด เป็นรองหัวแถวอย่าง #72ยูกิ ทาคาฮาชิในแต่ช่วงเพียงเล็กน้อย จากอากาศที่เย็นลงกว่าเมื่อวานเล็กน้อย ทำให้ยูกิ ทำเวลาได้เพียง 1'44.552 ช้ากว่าเมื่อวานราวครึ่งวินาที อิไลอัสเองก็ช้าลง 1'44.844 คือเวลาที่เต็งหนึ่งอย่างอิไลอัสทำได้ เจ้าฟีมขยับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 1'45.463 ช้ากว่ายูกิไม่ถึงวินาที
"ทดลองหลายอย่างมากครับ แต่ก็ดีขึ้น ขี่ง่าย เลี้ยวง่าย แต่ดูเหมือนว่า HB4 จะหนักกว่า Suter ที่เคยขี่เมื่อปลายปีแล้วนิดหน่อย ช๊อคอัพหน้ายังนิ่มไปนิด สปริงที่เตรียมมาไม่พอกับความแรงและน้ำหนักของรถที่มากขึ้น หลัง OK เบรกก็ดี มีท่านั่งที่ยังอึดอัดไปนิด ทีมงานรับปากว่าจะขยับขยายให้ แล้วก็มีอัตราเร่งที่ยังไม่ทัน Moriwaki โดยรวมพอใจมากครับ"
วันสุดท้ายของการทดสอบ ช่วงเช้าอากาศดี แต่ช่วงบ่ายฝนตก มีนักแข่งพลาดล้มไปหลายคัน ที่หนักที่สุดคือเต็งหนึ่งอย่างอิไลอัส ถึงขั้นกระดูกมือและเท้าแตก ฟีมเองก็ขี่แบบเซฟในช่วงเช้า ก็มี #71 คลาอูดิโอ้ คอรติที่เร็วสุด 1'44.044 อิไลอัสก่อนล้ม 1'44.263 ฟีมทำได้เพียง 1'46.014 ช้ากว่าคอรติ 2 วินาที
ผลการซ้อมทั้งสามวัน
หลังการซ้อมเสร็จสิ้น ทุกทีมต้องถอดเครื่องยนต์คืนให้กับผู้จัดฯเพื่อที่จะได้นำกลับไปปรับสภาพให้ใหม่เหมือนเดิม จากนั้นก็เก็บรถแข่งและอุปกรณ์ลงลังเพื่อส่งไปยังประเทศการ์ต้า
"คู่แข่งปีนี้ไม่น่ากลัวมากนัก เป็นห่วงแต่เรื่องรถ เพราะเรามีเวลาน้อยกว่าทีมอื่น และยังต้องแก้ไขอีกหลายจุด เรื่องแฟริ่งที่ใหญ่ไปหน่อย โดยทีมงานได้ทดลองตัดแต่งก็ดีขึ้น และรับปากว่าจะออกแบบใหม่ให้ทันการแข่งสนามแรกที่การ์ต้า คู่แข่งที่ดูดีก็มี #24 อิไลอัสกับ #15 ดิ แองเจิลลิส สองคนนี้ปรับรถเร็ว คนอื่นๆ ก็พอได้ ยังมีจากรุ่นเล็กก็เก่งใช้ได้ แต่อย่างไรฟีมไม่ยอมอยู่แล้วครับ"
โดยรวมเป็นที่น่าพอใจกับเวลาที่มีให้เพียง 3 วัน หลังจากนี้การบ้านใหญ่ตกหนักที่ทีมงานแซ๊กและ Bimota ที่จะต้องปรับ HB4 ให้อยู่มือภายในเวลาไม่ถึง 10 วันนับจากนี้
การแข่งขันสนามแรกเป็นการแข่งขันในเวลากลางคืนเหมือนเช่นปีที่ผ่านมาที่สนามโลไซอัล เมืองโดฮา ประเทศการ์ต้าในระหว่างวันที่ 9-11 เมษายน 2553 ที่จะถึงนี้ครับ
เพิ่งเติม http://www.aphonda.co.th/2010/2010_page045.asp?id=0591
แต่อย่างไรก็ดี เจ้าฟีมก็ได้บินไปร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนๆในรุ่นนี้ ที่มีทั้งเพื่อนเก่าและใหม่รวมแล้ว 40 ชีวิต นับว่าเป็นการแข่งขันที่มีประชากรมากที่สุด ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ในรุ่น GP125 มีรถมากถึง 44 คัน โดยการฝึกซ้อมในรุ่นนี้ได้ทำการฝึกซ้อมไปแล้วทั้ง 3 สนาม (เฮเรซ, คาตาลุนย่าและบาเลนเซีย) ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
สรุปสุดท้ายทีมงานแซ๊กได้เลือกใช้บริการตัวถังของ Bimota รุ่น HB4 (Honda-Bimota version4) โดยทีมงาน Bimota ได้ทำการพัฒนามาจนถึงแบบที่ 4 แต่ยังไม่มีนักแข่งในโมโต2 รายใดได้เคยขับขี่ และในการแข่งขันปีนี้ก็จะมีเพียง 2 คนที่จะใช้ตัวถัง HB4 คือ รัฐภาคย์วิไลโรจน์กับเบอนาด มาติเนซ เพื่อนร่วมทีมแซ๊ก
ภาพอากาศที่ประเทศเสปนในช่วงนี้ยังคงหนาวเย็น โดยวันที่เริ่มซ้อมวันแรก อากาศเย็นสบาย แต่ทีมงานไทยฮอนด้า พีทีที สิงห์ แซก กับไม่สบายเหมือนอากาศ เพราะรถที่ยังไม่พร้อมสมบูรณ์ เนื่องจากเพิ่งจะได้รับตัวถังมาเมื่อช่วงกลางเดือนนี้เอง เจ้าฟีมต้องเข้าๆออกพิทเพื่อแก้ปัญหาที่มีอยู่แทบทุกจุด วัดรอบไม่ขึ้น ตัวบันทึกข้อมูลไม่อ่าน ช๊อคอัพหลังยังไม่เสร็จ ช๊อคอัพหน้านิ่มไป และอีกสารพัดที่ต้องจัดการ วันแรกจึงวิ่งไปเพียง 44 รอบในขณะที่เพื่อนๆ ร่วมการแข่งขันฝึกซ้อมกันอย่างสุกสนาน บางคนวิ่งเกือบร้อยรอบ ผู้ที่เร็วที่สุดในวันนี้เป็น #24 โทนี่ อิไลอัส นักแข่งที่ลงมาจากรุ่นโมโตจีพี ทำเวลาที่ 1'44.077 ในขณะที่ฟีมทำได้เพียง 1'46.454 และมาดีขึ้นในช่วงบ่ายที่ 1'45.981
"หยุดขี่ไปนาน แม้ว่าจะได้ขี่ในเมืองไทยมาพอประมาณ แต่ก็ไม่เหมือนกัน ทั้งสภาพสนาม ความเร็ว รวมทั้งสภาพกาศ วันนี้ต้องปรับหลายจุด ทำให้ขี่ได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ"
การซ้อมในวันที่สอง สภาพอากาศยังคงเป็นไปอย่างสบาย ทีมงานแซ๊กได้แก้ไขข้อบกพร่องในหลายจุด ทำให้วันนี้เจ้าฟีมได้ขับขี่มากรอบขึ้น และสามารถกดคันเร่งทำเวลาได้ดีขึ้นในทุกจุด เป็นรองหัวแถวอย่าง #72ยูกิ ทาคาฮาชิในแต่ช่วงเพียงเล็กน้อย จากอากาศที่เย็นลงกว่าเมื่อวานเล็กน้อย ทำให้ยูกิ ทำเวลาได้เพียง 1'44.552 ช้ากว่าเมื่อวานราวครึ่งวินาที อิไลอัสเองก็ช้าลง 1'44.844 คือเวลาที่เต็งหนึ่งอย่างอิไลอัสทำได้ เจ้าฟีมขยับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 1'45.463 ช้ากว่ายูกิไม่ถึงวินาที
"ทดลองหลายอย่างมากครับ แต่ก็ดีขึ้น ขี่ง่าย เลี้ยวง่าย แต่ดูเหมือนว่า HB4 จะหนักกว่า Suter ที่เคยขี่เมื่อปลายปีแล้วนิดหน่อย ช๊อคอัพหน้ายังนิ่มไปนิด สปริงที่เตรียมมาไม่พอกับความแรงและน้ำหนักของรถที่มากขึ้น หลัง OK เบรกก็ดี มีท่านั่งที่ยังอึดอัดไปนิด ทีมงานรับปากว่าจะขยับขยายให้ แล้วก็มีอัตราเร่งที่ยังไม่ทัน Moriwaki โดยรวมพอใจมากครับ"
วันสุดท้ายของการทดสอบ ช่วงเช้าอากาศดี แต่ช่วงบ่ายฝนตก มีนักแข่งพลาดล้มไปหลายคัน ที่หนักที่สุดคือเต็งหนึ่งอย่างอิไลอัส ถึงขั้นกระดูกมือและเท้าแตก ฟีมเองก็ขี่แบบเซฟในช่วงเช้า ก็มี #71 คลาอูดิโอ้ คอรติที่เร็วสุด 1'44.044 อิไลอัสก่อนล้ม 1'44.263 ฟีมทำได้เพียง 1'46.014 ช้ากว่าคอรติ 2 วินาที
ผลการซ้อมทั้งสามวัน
หลังการซ้อมเสร็จสิ้น ทุกทีมต้องถอดเครื่องยนต์คืนให้กับผู้จัดฯเพื่อที่จะได้นำกลับไปปรับสภาพให้ใหม่เหมือนเดิม จากนั้นก็เก็บรถแข่งและอุปกรณ์ลงลังเพื่อส่งไปยังประเทศการ์ต้า
"คู่แข่งปีนี้ไม่น่ากลัวมากนัก เป็นห่วงแต่เรื่องรถ เพราะเรามีเวลาน้อยกว่าทีมอื่น และยังต้องแก้ไขอีกหลายจุด เรื่องแฟริ่งที่ใหญ่ไปหน่อย โดยทีมงานได้ทดลองตัดแต่งก็ดีขึ้น และรับปากว่าจะออกแบบใหม่ให้ทันการแข่งสนามแรกที่การ์ต้า คู่แข่งที่ดูดีก็มี #24 อิไลอัสกับ #15 ดิ แองเจิลลิส สองคนนี้ปรับรถเร็ว คนอื่นๆ ก็พอได้ ยังมีจากรุ่นเล็กก็เก่งใช้ได้ แต่อย่างไรฟีมไม่ยอมอยู่แล้วครับ"
โดยรวมเป็นที่น่าพอใจกับเวลาที่มีให้เพียง 3 วัน หลังจากนี้การบ้านใหญ่ตกหนักที่ทีมงานแซ๊กและ Bimota ที่จะต้องปรับ HB4 ให้อยู่มือภายในเวลาไม่ถึง 10 วันนับจากนี้
การแข่งขันสนามแรกเป็นการแข่งขันในเวลากลางคืนเหมือนเช่นปีที่ผ่านมาที่สนามโลไซอัล เมืองโดฮา ประเทศการ์ต้าในระหว่างวันที่ 9-11 เมษายน 2553 ที่จะถึงนี้ครับ
เพิ่งเติม http://www.aphonda.co.th/2010/2010_page045.asp?id=0591