รมว.พาณิชย์ เห็นชอบให้อัยการยื่นฟ้อง บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า คดีตัวอย่างข้อหามีพฤติกรรมเข้าข่ายแข่งขันการค้าไม่เป็นธรรมจนกระทบต่อธุรกิจเดียวกัน
ที่ประชุมคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ซึ่งมีนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน เห็นชอบให้กรมการค้าภายในส่งเรื่องให้อัยการยื่นฟ้องบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า เป็นคดีตัวอย่างข้อหามีพฤติกรรมเข้าข่ายแข่งขันการค้าไม่เป็นธรรม หลังพิจารณายืดเยื้อมานานกว่า 9 ปี
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมฯเห็นชอบให้กรมการค้าภายในส่งอัยการฟ้องร้องบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ตามข้อสรุป และข้อเสนอของคณะอนุกรรมการสอบสวนการร้องเรียนฯ เนื่องจากบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด มีพฤติกรรมเข้าข่ายแข่งขันทางการค้าไม่เป็นธรรม จนกระทบต่อธุรกิจลักษณะเดียวกัน
โดยบริษัทฯ ได้ใช้อำนาจเหนือตลาดห้ามตัวแทนจำหน่าย(เอเย่นต์) ขายรถจักรยานยนต์ของบริษัทคู่แข่ง ซึ่งมีการร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2544 และถือเป็นการทำผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 ที่มีโทษปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
"ถือเป็นกรณีแรกที่มีการฟ้องเอาผิดตามกฎหมายแข่งขันทางการค้า โดยเป็นการสอบสวนไปตามขบวนการที่พิจารณาจากข้อเท็จจริงจากพยาน 23 ปาก และหลักฐานกว่า 2,000 หน้า ประชุมกันถึง 12 ครั้ง ก็พบว่ามีการกระทำที่ไม่ใช่การแข่งขันที่เป็นธรรมจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจรายอื่นที่มีลักษณะแบบเดียวกัน" นายยรรยง กล่าว
สำหรับการประชุมครั้งนี้สามารถพิจารณากรณีบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า ได้เพียงเรื่องเดียว ส่วนกรณีอื่นๆ นั้นที่ประชุมฯ จะมีการพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป โดยมีการพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนอีก 3 เรื่องที่ร้องเรียนเข้ามา คือ การขายเหล้าพ่วงเบียร์, การกีดกันทางการค้าในธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และขายข้าวถุงต่ำกว่าทุน
ที่ประชุมคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ซึ่งมีนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน เห็นชอบให้กรมการค้าภายในส่งเรื่องให้อัยการยื่นฟ้องบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า เป็นคดีตัวอย่างข้อหามีพฤติกรรมเข้าข่ายแข่งขันการค้าไม่เป็นธรรม หลังพิจารณายืดเยื้อมานานกว่า 9 ปี
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมฯเห็นชอบให้กรมการค้าภายในส่งอัยการฟ้องร้องบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ตามข้อสรุป และข้อเสนอของคณะอนุกรรมการสอบสวนการร้องเรียนฯ เนื่องจากบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด มีพฤติกรรมเข้าข่ายแข่งขันทางการค้าไม่เป็นธรรม จนกระทบต่อธุรกิจลักษณะเดียวกัน
โดยบริษัทฯ ได้ใช้อำนาจเหนือตลาดห้ามตัวแทนจำหน่าย(เอเย่นต์) ขายรถจักรยานยนต์ของบริษัทคู่แข่ง ซึ่งมีการร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2544 และถือเป็นการทำผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 ที่มีโทษปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
"ถือเป็นกรณีแรกที่มีการฟ้องเอาผิดตามกฎหมายแข่งขันทางการค้า โดยเป็นการสอบสวนไปตามขบวนการที่พิจารณาจากข้อเท็จจริงจากพยาน 23 ปาก และหลักฐานกว่า 2,000 หน้า ประชุมกันถึง 12 ครั้ง ก็พบว่ามีการกระทำที่ไม่ใช่การแข่งขันที่เป็นธรรมจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจรายอื่นที่มีลักษณะแบบเดียวกัน" นายยรรยง กล่าว
สำหรับการประชุมครั้งนี้สามารถพิจารณากรณีบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า ได้เพียงเรื่องเดียว ส่วนกรณีอื่นๆ นั้นที่ประชุมฯ จะมีการพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป โดยมีการพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนอีก 3 เรื่องที่ร้องเรียนเข้ามา คือ การขายเหล้าพ่วงเบียร์, การกีดกันทางการค้าในธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และขายข้าวถุงต่ำกว่าทุน