เอ.พี.ฮอนด้า ทบทวนตลาดบิ๊กไบค์อีกรอบ ระบุปีหน้ารู้ผลแน่นอน เตรียมเดินหน้าเปิดตัวโปรเจ็กต์รถสปอร์ตใหม่ ตุลาคมนี้ มั่นใจรุ่นใหม่ตลาดอ้าแขนรับไม่แพ้รุ่นพีซีเอ็กซ์ พร้อมตั้งเป้าตลาดครึ่งปีหลังคึกคัก ส่งยอดขายรถรวมทั้งตลาดทะลุ 1.78 ล้านคัน
นายจิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เปิดเผยว่า บริษัทมีความพยายามในการนำรถบิ๊กไบค์เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย แต่ว่าในช่วงที่ผ่านมาเกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจส่งผลให้การดำเนินงานล่าช้า ซึ่งคาดว่าหากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นคืนกลับมาก็จะพิจารณาแผนงานดังกล่าวอีกครั้ง ส่วนโชว์รูมบนถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ หรือ บิ๊กวิงส์ คาดว่าจะมีความเคลื่อนไหวในปีหน้า
ส่วนแผนงานด้านตลาดนั้น ในเบื้องต้นรถบิ๊กไบค์ของฮอนด้าจะเป็นการนำเข้าจำหน่ายมากกว่าผลิตในประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้เงื่อนไขพิเศษด้านเอฟทีเอ กับประเทศต่างๆทำให้การนำเข้าได้รับอัตราภาษีพิเศษ
"เรายังคงมองว่าประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ดังจะเห็นจากการผลิตรถรุ่นใหม่อย่างพีซีเอ็กซ์ ที่ผลิตขึ้นมาเป็นครั้งแรก และทำการส่งออกไปยังตลาดประเทศต่างๆ ซึ่งแนวโน้มในอนาคตประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ในส่วนของบิ๊กไบค์ ฮอนด้าต้องการแบ่งปันความสุขในการขับขี่รถทุกประเภทกับลูกค้าคนไทย แต่เนื่องจากรถบิ๊กไบค์เป็นรถขนาดใหญ่ที่ต้องมีเทคโนโลยี ดังนั้นจึงต้องมีการตั้งศูนย์พัฒนาและปรับแต่งเพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภครถบิ๊กไบค์ในเมืองไทย "
นายคาโต กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาฮอนด้าได้พัฒนารถรุ่นใหม่ พีซีเอ็กซ์ ที่ทำการเปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา และเริ่มส่งออกต้นปี โดยพบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และทำยอดขายมากกว่า 20,000 คันในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่เป้าหมายยอดขายทั้งปีของรถรุ่นนี้อยู่ที่ 35,000 คัน สำหรับรุ่นพีซีเอ็กซ์ ทำการส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น และยุโรป
นอกจากนั้นแล้ว บริษัทยังเตรียมลงทุนเพื่อพัฒนารถรุ่นใหม่ที่จะออกสู่ตลาดในช่วงเดือนตุลาคมนี้ โดยจะเป็นรถใหม่แบบสปอร์ต ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อจำหน่ายทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งในรุ่นใหม่นี้ถือเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ที่ใช้เม็ดเงินลงทุนไม่ต่างจากในรุ่นพีซีเอ็กซ์เลย
ด้านกลยุทธ์ทางการตลาดของฮอนด้า ยังคงเน้นกิจกรรมที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายหลัก อาทิ"สกู๊ปปี้ ดี-เดย์"ที่จะจับมือร่วมกับร้านผู้จำหน่ายเพื่อตระเวนไปจังหวัดต่างๆ และเตรียมจะมีกิจกรรมใหญ่เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 1 ปีของสกู๊ปปี้ ไอ ที่เข้ามาแนะนำตัวกับตลาดในประเทศไทยรวมไปถึงเน้นเรื่อง Target Marketing และ Relation Marketing เป็นหลัก โดยมีมิวสิกหรือสปอร์ตหรือ ไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตติ้งเครื่องมือเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ล่าสุดมีการใช้มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง ผ่านการจัดคอนเสิร์ตในรูปแบบต่างๆ ล่าสุดที่มีขึ้นในวันที่ 31 ก.ค.นี้ที่ชายหาดชะอำ กับฮอนด้า เรกเก้ ออน เดอะ ร็อค 2
นายคาโต กล่าวโดยคาดว่าตลาดรถยนต์ปีนี้จะมีตัวเลขยอดขาย 1.78 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 16% โดยในส่วนของฮอนด้าคาดว่าจะมียอดขาย 1.22 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 20 % หรือครองส่วนแบ่งทางการตลาด 69% ขณะที่ตัวเลขยอดขายรวมในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามียอดขาย 933,219 คัน เติบโต 25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยฮอนด้ามียอดขาย 641,481 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 69% เติบโต 30%
"ตลาดครึ่งปีแรกของฮอนด้าเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา และแม้จะมีเหตุการณ์วิกฤติเศรษฐกิจและการเมืองแต่ฮอนด้ากลับได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งเป็นผลมาจากผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าทุกประเภท รวมถึงเทคโนโลยีและการพัฒนาของฮอนด้า และการบริการที่ครบวงจรของตัวแทนจำหน่าย โดยคาดว่าตลาดในครึ่งปีหลังจะรุนแรงมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน เพราะมีการใช้กลยุทธ์ใหม่ๆ หรือการแนะนำแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นตลาดมากขึ้น"
เพิ่มเติม http://www.thannews.th.com
นายจิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เปิดเผยว่า บริษัทมีความพยายามในการนำรถบิ๊กไบค์เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย แต่ว่าในช่วงที่ผ่านมาเกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจส่งผลให้การดำเนินงานล่าช้า ซึ่งคาดว่าหากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นคืนกลับมาก็จะพิจารณาแผนงานดังกล่าวอีกครั้ง ส่วนโชว์รูมบนถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ หรือ บิ๊กวิงส์ คาดว่าจะมีความเคลื่อนไหวในปีหน้า
ส่วนแผนงานด้านตลาดนั้น ในเบื้องต้นรถบิ๊กไบค์ของฮอนด้าจะเป็นการนำเข้าจำหน่ายมากกว่าผลิตในประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้เงื่อนไขพิเศษด้านเอฟทีเอ กับประเทศต่างๆทำให้การนำเข้าได้รับอัตราภาษีพิเศษ
"เรายังคงมองว่าประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ดังจะเห็นจากการผลิตรถรุ่นใหม่อย่างพีซีเอ็กซ์ ที่ผลิตขึ้นมาเป็นครั้งแรก และทำการส่งออกไปยังตลาดประเทศต่างๆ ซึ่งแนวโน้มในอนาคตประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ในส่วนของบิ๊กไบค์ ฮอนด้าต้องการแบ่งปันความสุขในการขับขี่รถทุกประเภทกับลูกค้าคนไทย แต่เนื่องจากรถบิ๊กไบค์เป็นรถขนาดใหญ่ที่ต้องมีเทคโนโลยี ดังนั้นจึงต้องมีการตั้งศูนย์พัฒนาและปรับแต่งเพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภครถบิ๊กไบค์ในเมืองไทย "
นายคาโต กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาฮอนด้าได้พัฒนารถรุ่นใหม่ พีซีเอ็กซ์ ที่ทำการเปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา และเริ่มส่งออกต้นปี โดยพบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และทำยอดขายมากกว่า 20,000 คันในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่เป้าหมายยอดขายทั้งปีของรถรุ่นนี้อยู่ที่ 35,000 คัน สำหรับรุ่นพีซีเอ็กซ์ ทำการส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น และยุโรป
นอกจากนั้นแล้ว บริษัทยังเตรียมลงทุนเพื่อพัฒนารถรุ่นใหม่ที่จะออกสู่ตลาดในช่วงเดือนตุลาคมนี้ โดยจะเป็นรถใหม่แบบสปอร์ต ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อจำหน่ายทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งในรุ่นใหม่นี้ถือเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ที่ใช้เม็ดเงินลงทุนไม่ต่างจากในรุ่นพีซีเอ็กซ์เลย
ด้านกลยุทธ์ทางการตลาดของฮอนด้า ยังคงเน้นกิจกรรมที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายหลัก อาทิ"สกู๊ปปี้ ดี-เดย์"ที่จะจับมือร่วมกับร้านผู้จำหน่ายเพื่อตระเวนไปจังหวัดต่างๆ และเตรียมจะมีกิจกรรมใหญ่เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 1 ปีของสกู๊ปปี้ ไอ ที่เข้ามาแนะนำตัวกับตลาดในประเทศไทยรวมไปถึงเน้นเรื่อง Target Marketing และ Relation Marketing เป็นหลัก โดยมีมิวสิกหรือสปอร์ตหรือ ไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตติ้งเครื่องมือเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ล่าสุดมีการใช้มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง ผ่านการจัดคอนเสิร์ตในรูปแบบต่างๆ ล่าสุดที่มีขึ้นในวันที่ 31 ก.ค.นี้ที่ชายหาดชะอำ กับฮอนด้า เรกเก้ ออน เดอะ ร็อค 2
นายคาโต กล่าวโดยคาดว่าตลาดรถยนต์ปีนี้จะมีตัวเลขยอดขาย 1.78 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 16% โดยในส่วนของฮอนด้าคาดว่าจะมียอดขาย 1.22 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 20 % หรือครองส่วนแบ่งทางการตลาด 69% ขณะที่ตัวเลขยอดขายรวมในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามียอดขาย 933,219 คัน เติบโต 25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยฮอนด้ามียอดขาย 641,481 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 69% เติบโต 30%
"ตลาดครึ่งปีแรกของฮอนด้าเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา และแม้จะมีเหตุการณ์วิกฤติเศรษฐกิจและการเมืองแต่ฮอนด้ากลับได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งเป็นผลมาจากผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าทุกประเภท รวมถึงเทคโนโลยีและการพัฒนาของฮอนด้า และการบริการที่ครบวงจรของตัวแทนจำหน่าย โดยคาดว่าตลาดในครึ่งปีหลังจะรุนแรงมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน เพราะมีการใช้กลยุทธ์ใหม่ๆ หรือการแนะนำแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นตลาดมากขึ้น"
เพิ่มเติม http://www.thannews.th.com