ดร. วิโรจน์ กุศลมโนมัย กรรรมการผู้จัดการ บริษัท กุศมัย มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในยุคเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรกรจำเป็นต้องประหยัดค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนการผลิต ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นทุกวันส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิต ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศเกษตรกรรมมีการขนส่งผลผลิตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการประกอบอาชีพอื่นๆ ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องมีรถเพื่อการขนส่งหรือประกอบอาชีพ การซื้อรถปิ๊คอัพราคา 3-4 แสนบาท มาขนของต้องใช้เงินทุนจำนวนมากและมีค่าใช้จ่ายสูง กุศมัย มอเตอร์ เล็งเห็นว่ารถขนส่ง ปิ๊คอัพ 3 ล้อ น่าจะเป็นทางออกที่ดีและเหมาะสมกับการใช้งานในยุคปัจจุบัน เพราะราคาไม่แพงและคุ้มค่าต่อการใช้งานในยุคน้ำมันแพง
“ กุศมัย มอเตอร์ เตรียมเปิดตัว รถปิ๊คอัพ 3 ล้อ ซูโมต้า อีก 7 รุ่น ในกลางปีนี้ คือ 1.รุ่น ECO PLUS 2.รุ่น CARRY PLUS 3.รุ่น CARGO PLUS 4.รุ่น CONTAINER PLUS 5.รุ่น KIOSK PLUS 6.รุ่น MINI BUS PLUS และ 7.รุ่น SOS 199 PLUS เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มอาชีพและการใช้งาน ทั้งการขนของผลผลิตทางการเกษตร ขนส่งอาหาร ค้าขาย หรือขนส่งผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังมีรถปิ๊คอัพ 3 ล้อ สำหรับดับเพลิงเบื้องต้น โดยทุกรุ่นจะใช้ เครื่องยนตร์ขนาด 200 ซีซี หรือ DH 200 Z ซึ่งเป็นเครื่องของรถจักรยานยนตร์ขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนโดยใช้ระบบเพลาของรถบรรทุก 6 ล้อ โครงช่วงล่างแข็งแรงทนทานเสริมด้วยเหล็กแดงแชสซี ใช้เหน็บ 2 ชิ้น หนา 6 เซ็นติเมตร จำนวน 10 ชั้น สปริงโช๊คอัพทำจากเหล็กกล้าอย่างดี ตัวกระบะทำจากเหล็กกล้าอย่างหนา โดยรถเปล่าสามารถทำความเร็วได้ที่ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อบรรทุกน้ำหนัก 1 ตัน ความเร็วอยู่ที่ 40-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้านการตลาดในปีแรกนี้มีดีลเลอร์ให้ความสนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายแล้วกว่า 20 แห่ง ตั้งเป้ายอดจำหน่ายที่ 500 คัน หรือประมาณ 40 ล้านบาท และมีแผนงานที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว พม่า กัมพูชา รวมถึงตลาดต่างประเทศอินเดีย และบังคลาเทศเพื่อเป็จตัวแทนจำหน่ายประจำภูมิภาคอีกด้วย ” ดร.วิโรจน์ กล่าว
เพิ่มเติม http://www.newswit.com/
“ กุศมัย มอเตอร์ เตรียมเปิดตัว รถปิ๊คอัพ 3 ล้อ ซูโมต้า อีก 7 รุ่น ในกลางปีนี้ คือ 1.รุ่น ECO PLUS 2.รุ่น CARRY PLUS 3.รุ่น CARGO PLUS 4.รุ่น CONTAINER PLUS 5.รุ่น KIOSK PLUS 6.รุ่น MINI BUS PLUS และ 7.รุ่น SOS 199 PLUS เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มอาชีพและการใช้งาน ทั้งการขนของผลผลิตทางการเกษตร ขนส่งอาหาร ค้าขาย หรือขนส่งผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังมีรถปิ๊คอัพ 3 ล้อ สำหรับดับเพลิงเบื้องต้น โดยทุกรุ่นจะใช้ เครื่องยนตร์ขนาด 200 ซีซี หรือ DH 200 Z ซึ่งเป็นเครื่องของรถจักรยานยนตร์ขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนโดยใช้ระบบเพลาของรถบรรทุก 6 ล้อ โครงช่วงล่างแข็งแรงทนทานเสริมด้วยเหล็กแดงแชสซี ใช้เหน็บ 2 ชิ้น หนา 6 เซ็นติเมตร จำนวน 10 ชั้น สปริงโช๊คอัพทำจากเหล็กกล้าอย่างดี ตัวกระบะทำจากเหล็กกล้าอย่างหนา โดยรถเปล่าสามารถทำความเร็วได้ที่ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อบรรทุกน้ำหนัก 1 ตัน ความเร็วอยู่ที่ 40-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้านการตลาดในปีแรกนี้มีดีลเลอร์ให้ความสนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายแล้วกว่า 20 แห่ง ตั้งเป้ายอดจำหน่ายที่ 500 คัน หรือประมาณ 40 ล้านบาท และมีแผนงานที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว พม่า กัมพูชา รวมถึงตลาดต่างประเทศอินเดีย และบังคลาเทศเพื่อเป็จตัวแทนจำหน่ายประจำภูมิภาคอีกด้วย ” ดร.วิโรจน์ กล่าว
เพิ่มเติม http://www.newswit.com/