โตโยตรอน ส่งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ลุยตลาด ชูจุดเด่น “เร่งแรง แซงสบาย ขึ้นเนินได้ สบายกระเป๋า” หลังพัฒนาชุดควบคุม แบตเตอรี่ใหม่ ตั้งเป้ายอดขาย 2,000-3,000 คัน/เดือน เร่งขยายเครือข่ายการขายและบริการ พร้อมเปิดศูนย์ฮอตไลน์ สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
นายโอกาส เตพละกุล ประธานกรรมการ บริษัท โตโยตรอน มอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า “โตโยตรอน” เปิดเผยว่า ปัจจุบันรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นยานพาหนะที่ตอบสนองความต้องการที่สมบูรณ์แบบ ทั้งความสามารถในการใช้งาน ความประหยัด และการเอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นรถพลังงานสะอาด ลดมลพิษ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มีผลทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ทั่วโลกกำลังวิตกกังวล และหาทางแก้ไขแบบเร่งด่วนในขณะนี้
ในส่วนของการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตัดสินใจซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของผู้บริโภค โดยเฉพาะในยุคที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีความผันผวนตลอดเวลา ทำให้ค่าใช้จ่ายของผู้ใช้รถมีมากขึ้นตามไปด้วย ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของโตโยตรอน มีค่าใช้จ่ายเพียงกิโลเมตรละ 7 สตางค์เท่านั้น นอกจากเรื่องของราคาน้ำมันที่เห็นได้ชัดเจนว่าประหยัดกว่ารถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมันเบนซินทั่วไปแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายแฝงอีกมากที่โตโยตรอนได้เปรียบ เช่น ค่าบำรุงรักษารายเดือน ทั้งค่าน้ำมันหล่อลื่น ค่าหัวเทียนหรือน้ำมันเกียร์ เป็นต้น ทำให้ตลอดอายุการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคได้มากถึงเดือนละไม่น้อยกว่า 500 บาท
ที่ผ่านมารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่จำหน่ายอยู่ทั่วไปในตลาด ยังมีจุดอ่อนในหลายส่วน ทำให้การใช้งานมีข้อจำกัด คือ ความเร็วในการขับขี่ที่ยังทำได้ต่ำเกินไป การเร่งแซงทำได้ ไม่ดีแบกน้ำหนักไม่ได้ ขึ้นทางลาดชัน เช่น เนินหรือสะพานไม่ได้ และระยะทางในการใช้งานแต่ละครั้งที่ยังน้อยเกินไปทำให้ไม่สะดวกในการใช้งาน
บริษัท โตโยตรอน มอเตอร์ จำกัด ได้ศึกษาวิจัยจุดเด่นจุดด้อย และความต้องการของผู้บริโภคอย่างละเอียดแล้ว จึงได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ พัฒนาระบบหลักๆ ของรถ คือ มอเตอร์, ชุดควบคุม และแบตเตอรี่ และทีมงานออกแบบจากประเทศญี่ปุ่นพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ 2 รุ่น คือ โตโยตรอน เทอร์โบ และโตโยตรอน ซูเปอร์ ออกสู่ตลาด ซึ่งสามารถกำจัดจุดอ่อนของรถในตลาดปัจจุบันใน 3 จุดหลักๆ ลงได้ ทำให้เป็นรถที่สามารถทำความเร็วได้ 55 กม./ชม. และ 65 กม./ชม. สามารถแบกรับน้ำหนักบรรทุก เช่น มีคนซ้อนท้าย หรือบรรทุกสิ่งของได้ และมีความสามารถในการปีนไต่เนินชันมากขึ้น
ถึงวันนี้ โตโยตรอนเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพียงยี่ห้อเดียวที่สามารถขับขี่ในทุกสภาพเส้นทาง โดยเฉพาะการปีนไต่เนิน หรือว่าสะพาน ซึ่งจะเห็นถึงความแตกต่างของโตโยตรอนกับยี่ห้ออื่นๆ อย่างชัดเจน นอกจากนั้นโตโยตรอนยังสามารถขับขี่ในช่วงที่ฝนตกหรือมีน้ำท่วมขังตามปกติได้ โดยไม่มีปัญหากับมอเตอร์หรือว่าแบตเตอรี่แต่อย่างใด โดยความสามารถในการใช้งานต่อการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้งอยู่ที่ 70 กม. ซึ่งถือว่าเป็นระยะทางที่สะดวกและเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป โดยมอเตอร์ไซค์โตโยตรอน รับประกันมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ปี และรับประกันคุณภาพ 1 ปี
นายโอกาส กล่าวต่ออีกว่า สำหรับแนวทางการทำตลาดของโตโยตรอน จะเน้นการสร้างประสบการณ์ตรงให้กับลูกค้า ทั้งการจัดกิจกรรมโรดโชว์ตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองขับขี่ ซึ่งเป็นวิธีการที่จะช่วยให้เข้าใจถึงสมรรถนะที่แท้จริง และเห็นถึงความแตกต่างที่โดดเด่นของโตโยตรอน โดยเฉพาะการแบกน้ำหนัก หรือการขึ้นเนิน เป็นการให้ข้อมูลและความรู้แก่ผู้บริโภค
ทางด้านช่องทางการขาย ปัจจุบันโตโยตรอนมีผู้แทนจำหน่าย 40 รายทั่วประเทศ และปีนี้จะเปิดเพิ่มให้ครบ 50 ราย สำหรับในอนาคตตั้งเป้าเปิดให้ครอบคลุมทั่วประเทศครบทุกจังหวัด อย่างน้อยจังหวัดละ 1 ราย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดบริการฮอตไลน์ เพื่อให้ความช่วยเหลือกับลูกค้าอย่างเร่งด่วนอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าทั้งการดำเนินการทั้งหมดจะช่วยผลักดันยอดขาย โตโยตรอนรุ่นใหม่ ได้เดือนละ 2,000-3,000 คัน
โตโยตรอน ผลิตที่โรงงานบางพลี ซึ่งลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท และใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 60% โดยมีราคาจำหน่ายในรุ่นเทอร์โบ 3.9 หมื่นบาท และ รุ่นซูเปอร์ 4.35 หมื่นบาท ในอนาคตบริษัทฯ มีแผนจะส่งออกรถไปจำหน่ายยังต่างประเทศอีกด้วย โดยใช้ชื่อสินค้าเดียวกันคือ โตโยตรอน และเน้นจุดขายคือความเป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของไทย
ที่มา www.banmuang.co.th
นายโอกาส เตพละกุล ประธานกรรมการ บริษัท โตโยตรอน มอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า “โตโยตรอน” เปิดเผยว่า ปัจจุบันรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นยานพาหนะที่ตอบสนองความต้องการที่สมบูรณ์แบบ ทั้งความสามารถในการใช้งาน ความประหยัด และการเอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นรถพลังงานสะอาด ลดมลพิษ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มีผลทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ทั่วโลกกำลังวิตกกังวล และหาทางแก้ไขแบบเร่งด่วนในขณะนี้
ในส่วนของการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตัดสินใจซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของผู้บริโภค โดยเฉพาะในยุคที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีความผันผวนตลอดเวลา ทำให้ค่าใช้จ่ายของผู้ใช้รถมีมากขึ้นตามไปด้วย ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของโตโยตรอน มีค่าใช้จ่ายเพียงกิโลเมตรละ 7 สตางค์เท่านั้น นอกจากเรื่องของราคาน้ำมันที่เห็นได้ชัดเจนว่าประหยัดกว่ารถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมันเบนซินทั่วไปแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายแฝงอีกมากที่โตโยตรอนได้เปรียบ เช่น ค่าบำรุงรักษารายเดือน ทั้งค่าน้ำมันหล่อลื่น ค่าหัวเทียนหรือน้ำมันเกียร์ เป็นต้น ทำให้ตลอดอายุการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคได้มากถึงเดือนละไม่น้อยกว่า 500 บาท
ที่ผ่านมารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่จำหน่ายอยู่ทั่วไปในตลาด ยังมีจุดอ่อนในหลายส่วน ทำให้การใช้งานมีข้อจำกัด คือ ความเร็วในการขับขี่ที่ยังทำได้ต่ำเกินไป การเร่งแซงทำได้ ไม่ดีแบกน้ำหนักไม่ได้ ขึ้นทางลาดชัน เช่น เนินหรือสะพานไม่ได้ และระยะทางในการใช้งานแต่ละครั้งที่ยังน้อยเกินไปทำให้ไม่สะดวกในการใช้งาน
บริษัท โตโยตรอน มอเตอร์ จำกัด ได้ศึกษาวิจัยจุดเด่นจุดด้อย และความต้องการของผู้บริโภคอย่างละเอียดแล้ว จึงได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ พัฒนาระบบหลักๆ ของรถ คือ มอเตอร์, ชุดควบคุม และแบตเตอรี่ และทีมงานออกแบบจากประเทศญี่ปุ่นพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ 2 รุ่น คือ โตโยตรอน เทอร์โบ และโตโยตรอน ซูเปอร์ ออกสู่ตลาด ซึ่งสามารถกำจัดจุดอ่อนของรถในตลาดปัจจุบันใน 3 จุดหลักๆ ลงได้ ทำให้เป็นรถที่สามารถทำความเร็วได้ 55 กม./ชม. และ 65 กม./ชม. สามารถแบกรับน้ำหนักบรรทุก เช่น มีคนซ้อนท้าย หรือบรรทุกสิ่งของได้ และมีความสามารถในการปีนไต่เนินชันมากขึ้น
ถึงวันนี้ โตโยตรอนเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพียงยี่ห้อเดียวที่สามารถขับขี่ในทุกสภาพเส้นทาง โดยเฉพาะการปีนไต่เนิน หรือว่าสะพาน ซึ่งจะเห็นถึงความแตกต่างของโตโยตรอนกับยี่ห้ออื่นๆ อย่างชัดเจน นอกจากนั้นโตโยตรอนยังสามารถขับขี่ในช่วงที่ฝนตกหรือมีน้ำท่วมขังตามปกติได้ โดยไม่มีปัญหากับมอเตอร์หรือว่าแบตเตอรี่แต่อย่างใด โดยความสามารถในการใช้งานต่อการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้งอยู่ที่ 70 กม. ซึ่งถือว่าเป็นระยะทางที่สะดวกและเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป โดยมอเตอร์ไซค์โตโยตรอน รับประกันมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ปี และรับประกันคุณภาพ 1 ปี
นายโอกาส กล่าวต่ออีกว่า สำหรับแนวทางการทำตลาดของโตโยตรอน จะเน้นการสร้างประสบการณ์ตรงให้กับลูกค้า ทั้งการจัดกิจกรรมโรดโชว์ตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองขับขี่ ซึ่งเป็นวิธีการที่จะช่วยให้เข้าใจถึงสมรรถนะที่แท้จริง และเห็นถึงความแตกต่างที่โดดเด่นของโตโยตรอน โดยเฉพาะการแบกน้ำหนัก หรือการขึ้นเนิน เป็นการให้ข้อมูลและความรู้แก่ผู้บริโภค
ทางด้านช่องทางการขาย ปัจจุบันโตโยตรอนมีผู้แทนจำหน่าย 40 รายทั่วประเทศ และปีนี้จะเปิดเพิ่มให้ครบ 50 ราย สำหรับในอนาคตตั้งเป้าเปิดให้ครอบคลุมทั่วประเทศครบทุกจังหวัด อย่างน้อยจังหวัดละ 1 ราย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดบริการฮอตไลน์ เพื่อให้ความช่วยเหลือกับลูกค้าอย่างเร่งด่วนอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าทั้งการดำเนินการทั้งหมดจะช่วยผลักดันยอดขาย โตโยตรอนรุ่นใหม่ ได้เดือนละ 2,000-3,000 คัน
โตโยตรอน ผลิตที่โรงงานบางพลี ซึ่งลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท และใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 60% โดยมีราคาจำหน่ายในรุ่นเทอร์โบ 3.9 หมื่นบาท และ รุ่นซูเปอร์ 4.35 หมื่นบาท ในอนาคตบริษัทฯ มีแผนจะส่งออกรถไปจำหน่ายยังต่างประเทศอีกด้วย โดยใช้ชื่อสินค้าเดียวกันคือ โตโยตรอน และเน้นจุดขายคือความเป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของไทย
ที่มา www.banmuang.co.th